“โซเซ่ มูรินโญ” จ่ามูยอดโค้ชศตวรรษที่ 21

โซเซ่ มูรินโญ จ่ามูยอดโค้ชศตวรรษที่ 21 โค้ชคนไหนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

หากจะถามว่าโค้ชคนไหนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในวงการลูกหนังสมัยใหม่นั้นเชื่อว่าหลายคนก็คงต้องคิดถึง “เฟอร์กี้” เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับ “ปิศาจแดง” มาเนิ่นนานอย่างแน่นอน หรือจะเป็นเวนเกอร์ก็อาจจะทำให้หลายคนนึกถึง

แต่ถ้าหากจะถามว่าโค้ชคนไหนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 นั้นเชื่อว่าก็พอจะนึกได้หลากหลายคนไม่ว่าจะเป็นโซเซ่ มูรินโญ, เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, โยอาคิม เลิฟ, อาร์แซน เวนเกอร์ หรือแม้กระทั่งคาร์โล อันเชลอตติ

สนใจสมัครสมาชิก RG3 คลิกเลย

ล่าสุดสหพันธ์สถิติและประวัติศาสตร์ฟุตบอลนานาชาติ (ไอเอฟเอฟเอชเอส) ได้ออกมาเผยว่าโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษที่ 21 ระหว่างปี 2001-2020 หรือช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาได้แก่ โซเซ่ มูรินโญ กุนซือชาวโปรตุกีสของสเปอร์ส 

ซึ่งถ้าย้อนไปดูตามวันเวลาดังกล่าวก็ต้องยกให้ “มูรินโญ” จริงๆสำหรับตำแหน่งนี้

เพราะช่วง 20 ปีที่ผ่านมา “เฮียมู” เดินไปทางไหนก็ต้องมีแชมป์ติดมืออยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีก, แชมป์ยุโรป หรือบอลถ้วยในลีกต่างๆที่เคยคุมทัพ

ลองมาไล่เรียงดูว่าตลอด 20 ปีที่ผ่านมา “มูรินโญ” ได้ชูถ้วยอะไรมาบ้างจนถึงถูกยกย่องให้เป็นยอดกุนซือของศตวรรษที่ 21

คุมปอร์โต ปี 2002-2004 กวาดแชมป์ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ 1 สมัย คุมเชลซี (รอบแรก) ปี 2004-2007 ซิวแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย

คุมอินเตอร์ มิลาน ปี 2008-2010 แชมป์กัลโช ซีรีเอ 2 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย คุมเรอัล มาดริด ปี 2010-2013 คว้าแชมป์ลาลีกา 1 สมัย, โคปา เดล เรย์ 1 สมัย คุมเชลซี (รอบสอง) ปี 2013-2015 ซิวแชมป์ลีก 1 สมัย

คุมแมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2016-2018 แชมป์ลีก คัพ 1 สมัย และยูฟ่า ยูโรปา ลีก 1 สมัย อย่างที่บอกไป “มู” นั้นคุมทีมไหนก็แชมป์ได้ทุกทีม จึงไม่แปลกใจที่ได้รับรางวัลยอดกุนซือแห่งศตวรรษที่ 21 ส่วนอันดับที่ 2 ตกเป็นของโยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเยอรมนี ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับชาติด้วยการนำทัพ “อินทรีเหล็ก” ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล

สำหรับการจัดอันดับครั้งนี้เน้นไปที่ความสำเร็จตั้งแต่ปี 2001 จนทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์มากมายก่อนปี 2001 ถูกจัดอยู่ในอันดับ 3 ร่วมกับเป๊ป กวาร์ดิโอลา นายใหญ่ชาวกระทิงดุของแมนฯ ซิตี้

แม้ว่าจะคว้ารางวัลยอดกุนซือแห่งศตวรรษที่ 21 แต่สถานการณ์ของ “เฮียมู” กับสเปอร์สต้นสังกัดปัจจุบันไม่ค่อยดีนัก จนบริษัทพนันถูกกฎหมายได้ยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่ง

แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามูรินโญ น่าจะได้ทำ “ไก่เดือยทอง” อย่างน้อยจนจบฤดูกาล และตอนนี้เจ้าตัวก็รอทำสถิติคุมทุกทีมมีแชมป์ทุกทีม

หลังจากพาสเปอร์สผ่านเข้าชิงชนะเลิศในศึกคาราบาว คัพ พบกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ก็ต้องตามดูว่า “มูรินโญ” จะรักษาสถิติที่เคยทำเอาไว้ได้หรือไม่!! แน่นอน..กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว คนอย่างมูรินโญ่ก็ไม่ได้เก่ง ออกมาจากท้องแม่เช่นกัน..

เริ่มต้นจากเด็กหนุ่มผู้ฝันสลายกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ตามรอยผู้เป็นพ่อ แต่มูรินโญ่ก็บ้าฟุตบอลเกินกว่าจะขาดมันได้ เค้าเลยเบนเข็มตัวเองสู่อาชีพ ผู้จัดการทีม เส้นทางของมูรินโญ่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เค้าไต่เต้าจากครูพละ เป็นโค้ชทีมฟุตบอลโรงเรียน แล้วโดดมาเป็นล่ามให้ เซอร์ บ๊อบบี้ ร้อบสัน ที่สปอร์ติ้งลิสบอนในโปรตุเกส ก่อนจะเลื่อนขั้นเป็นมือขวาให้ เซอร์บ๊อบบี้ ที่บาร์เซโลนา ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม ที่คัมป์นูในยุค 90’s เป็นเสมือนโรงเรียนฝึกหัดชั้นดีให้มูรินโญ่ได้เรียนรู้งานจาก “2 บรมกุนซือ” ทั้ง บ๊อบบี้ ร้อบสัน และ หลุยส์ ฟานกัล และแน่นอนในทีมบาร์ซ่า ยุคนั้นมี เป๊บ กวาดิโอร่าร่วมทีมอยู่ด้วย.. บางครั้ง..คุณก็หนีโชคชะตาไปไม่พ้น… 10 ปีต่อมา หลังจากตระเวณฟาดฟันมาทั่วยุโรป มูรินโญ่พบตัวเองกลับมายืน ณ จุดเริ่มต้น.. พร้อมนำทัพสตาร์แห่งกาลาติกอสยุคฟื้นฟู ตะกายข้ามฝ่าภูเขาลูกใหญ่ยักษ์ที่มีชื่อว่า ….”บาร์เซโลนา”….

แม้ในวันนี้..เค้าจะไม่ใช่ “ผู้ชนะ” แต่โลกรู้ว่า คนอย่างมูรินโญ่จะไม่ยอมถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้แพ้” นานนักหรอก…

ต่อไปนี้.. คือวาทะของผู้ชายตัวเล็กเสียงดัง ผู้ที่เชื่อว่าสงครามไม่ได้จบแค่บนสนามหญ้า ผู้ที่พร้อมใช้ฝีปากทิ่มแทงศัตรูเพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการ ผู้ที่คุณต้องรัก..หากคุณอยู่ฝั่งเดียวกับเค้า ผู้ที่คุณไม่อาจเกลียด..หากคุณอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเค้า จะวันนี้..หรืออีกซักห้าสิบปีข้างหน้า เค้าก็ยังคงเป็นปรากฏการณ์ ที่มีแค่หนึ่งเดียว ไม่มีใครเหมือน และไม่เคยเหมือนใคร เพราะเค้าคือ The Special ONE กรุณาอย่าเรียกผมว่าพวกหยิ่งจองหอง ..ผมคือแชมป์ยุโรป ผมคือ “Special One”โซเซ่ มูรินโญ่ “The Special ONE” มาลุ้นกันว่า มูรินโญ่ จะพาสเปอร์สคว้าแชมป์ได้หรือไม่?